28 เมษายน 2553
ACMECS - อิรวดี เจ้าพระยา แม่โขง
14:47 | Posted by
peanut |
แก้ไขบทความ
พี่น้องกัน...แต่มันคนละsiZe(ขอนแก่น 5 กะขอนแก่น 6)
14:44 | Posted by
peanut |
แก้ไขบทความ
ไหนๆพูดเรื่องพันธุ์ถั่วลิสงแล้ว ขอต่ออีก 2 พันธุ์ที่ดูชื่อแล้วคงเกิดอยู่อิสานเหอะๆ นั่นคือ พันธุ์ขอนแก่น 5 และ พันธุ์ขอนแก่น 6 ซึ่งที่ผมอยากพูดถึงเพราะรูปร่างหน้าตาสองพันธุ์นี้ไม่เหมือนกันเลย แต่ไหงชื่อดั๊นคลานตามกันมา...ไล่กันที่ละพันธุ์ทีละช็อตกันเลยนะครับ
ขอนแก่น 5 ขอนแก่น 6
- เฉลี่ย 2 ฝัก เส้นลายชัดเจนแบบตาข่าย - เฉลี่ย 2 ฝัก เส้นลายเจนในแนวตรง
ร่องไม่ลึก
- เมล็ดปานกลาง เยื่อหุ้มสีชมพู - เมล็ดโต เยื่อหุ้มสีชมพูเข้ม
-ลำต้นสีเขียวอ่อนทรงพุ่มกว้าง - ลำต้นสีเขียวเข้ม(น่าจะเข้มกว่าทุกพันธุ์)
-อายุเก็บเกี่ยว 85-115 วัน - อายุเก็บเกี่ยว 105-110 วัน
-รับรองพันธุ์ 2541 - รับรองพันธุ์ 2547
ทั้งสองพันธุ์พัฒนาสายพันธุ์โดยศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่นซึ่งกว่าจะได้ สายพันธุ์ที่ดีและนิ่ง นั้นอาศัยเวลามากมายครับ อย่าคิดนะครับว่าง่าย............แล้วปรมาจารย์ถั่วลิสงจริงๆ ในเมืองไทยมีไม่มากครับ โดยส่วนตัวผมชอบทั้งสองสายพันธุ์ที่ ต้านทานโรคยอดไหม้ได้ดีมาก เพราะผมทดลองปลูกร่วมกับพันธุ์อื่นๆ 2 พันธุ์นี้ไม่ค่อยเสียหายจาก โรคยอดไหม้มากนักเมื่อเทียบกับพันธุ์อื่น ๆ แต่ขอนแก่น 6 กลับเสียหายด้วยรากเน่าโคนเน่าพอสมควร แล้วขอนแก่น 6 มีจุดเด่นตรงที่ ลำต้นของเขาเขียวเข้มกว่าพันธุ์อื่นๆครับ ถ้าปลูกหลาย ๆ พันธุ์จะเห็นชัดเจน มองแล้วชื่นใจ และขนาดเมล็ดที่ไม่น่าเชื่อว่าถั่วลิสงจะเม็ด หญ่ายยยยยยยยยยยย ได้ขนาดนั้นครับ ถ้านึกภาพไม่ออก ลองเดินเข้าไป 7-11 ไปซื้อถั่วอบเกลือ ผมเรียกว่า ถั่วเปลือยอ่ะครับ มีหลายยี่ห้อ โดยเฉพาะโก๋แก่ ถั่วอบเกลือ เมล็ดขอนแก่น 6 จะมีขนาดประมาณนั้นอ่ะครับ แต่ถั่วโก๋แก่หรือทองการ์เด็นท์ ไม่ใช่ ขอนแก่น 6 นะครับ เป็นถั่วที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะ ขอนแก่น 6 ไม่ค่อยมีคนนิยมปลูกเท่าไหร่ เพราะตลาดที่ไม่รองรับเท่าทีควร ส่วนขอนแก่น 5 ปลูกกันเยอะครับ ตลาดยังรองรับทั้งสดและแห้ง สามารถปลูกได้ดีทุกพื้นที่ และอยากกระซิบดังๆ ให้คนที่ครอบครองพันธุ์ ขอนแก่น 6 อยู่ในตอนนี้อย่านำไปทิ้งไหนนะครับ ผมคิดว่าแนวโน้มถั่วเมล็ดโตในไทยน่าจะดี ในปี 2554 เพราะต่างประเทศบางประเทศผลผลิตและพื้นที่ลดลงมาก จึงน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะให้ความสนใจเจ้าถั่วเมล็ดโต ขอนแก่น 6 ที่เป็นน้อง ขอนแก่น 5 ตั้ง 6 ปี แต่ไหง "SIZE มันต่างกันซะ"
ขอนแก่น 5 ขอนแก่น 6
- เฉลี่ย 2 ฝัก เส้นลายชัดเจนแบบตาข่าย - เฉลี่ย 2 ฝัก เส้นลายเจนในแนวตรง
ร่องไม่ลึก
- เมล็ดปานกลาง เยื่อหุ้มสีชมพู - เมล็ดโต เยื่อหุ้มสีชมพูเข้ม
-ลำต้นสีเขียวอ่อนทรงพุ่มกว้าง - ลำต้นสีเขียวเข้ม(น่าจะเข้มกว่าทุกพันธุ์)
-อายุเก็บเกี่ยว 85-115 วัน - อายุเก็บเกี่ยว 105-110 วัน
-รับรองพันธุ์ 2541 - รับรองพันธุ์ 2547
ทั้งสองพันธุ์พัฒนาสายพันธุ์โดยศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่นซึ่งกว่าจะได้ สายพันธุ์ที่ดีและนิ่ง นั้นอาศัยเวลามากมายครับ อย่าคิดนะครับว่าง่าย............แล้วปรมาจารย์ถั่วลิสงจริงๆ ในเมืองไทยมีไม่มากครับ โดยส่วนตัวผมชอบทั้งสองสายพันธุ์ที่ ต้านทานโรคยอดไหม้ได้ดีมาก เพราะผมทดลองปลูกร่วมกับพันธุ์อื่นๆ 2 พันธุ์นี้ไม่ค่อยเสียหายจาก โรคยอดไหม้มากนักเมื่อเทียบกับพันธุ์อื่น ๆ แต่ขอนแก่น 6 กลับเสียหายด้วยรากเน่าโคนเน่าพอสมควร แล้วขอนแก่น 6 มีจุดเด่นตรงที่ ลำต้นของเขาเขียวเข้มกว่าพันธุ์อื่นๆครับ ถ้าปลูกหลาย ๆ พันธุ์จะเห็นชัดเจน มองแล้วชื่นใจ และขนาดเมล็ดที่ไม่น่าเชื่อว่าถั่วลิสงจะเม็ด หญ่ายยยยยยยยยยยย ได้ขนาดนั้นครับ ถ้านึกภาพไม่ออก ลองเดินเข้าไป 7-11 ไปซื้อถั่วอบเกลือ ผมเรียกว่า ถั่วเปลือยอ่ะครับ มีหลายยี่ห้อ โดยเฉพาะโก๋แก่ ถั่วอบเกลือ เมล็ดขอนแก่น 6 จะมีขนาดประมาณนั้นอ่ะครับ แต่ถั่วโก๋แก่หรือทองการ์เด็นท์ ไม่ใช่ ขอนแก่น 6 นะครับ เป็นถั่วที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะ ขอนแก่น 6 ไม่ค่อยมีคนนิยมปลูกเท่าไหร่ เพราะตลาดที่ไม่รองรับเท่าทีควร ส่วนขอนแก่น 5 ปลูกกันเยอะครับ ตลาดยังรองรับทั้งสดและแห้ง สามารถปลูกได้ดีทุกพื้นที่ และอยากกระซิบดังๆ ให้คนที่ครอบครองพันธุ์ ขอนแก่น 6 อยู่ในตอนนี้อย่านำไปทิ้งไหนนะครับ ผมคิดว่าแนวโน้มถั่วเมล็ดโตในไทยน่าจะดี ในปี 2554 เพราะต่างประเทศบางประเทศผลผลิตและพื้นที่ลดลงมาก จึงน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะให้ความสนใจเจ้าถั่วเมล็ดโต ขอนแก่น 6 ที่เป็นน้อง ขอนแก่น 5 ตั้ง 6 ปี แต่ไหง "SIZE มันต่างกันซะ"
10 เมษายน 2553
สข.38 สุดยอดถั่วลิสงดั้งเดิม
01:01 | Posted by
peanut |
แก้ไขบทความ
วันนี้ผมขอแนะนำพันธุ์ถั่วลิสงที่มีมานานแสนนานเรียกว่า "เก๋าสุด" ในบรรดาพันธุ์ถั่วลิสงสายพันธุ์ไทยซึ่งได้จากการรวบรวมพันธุ์ถั่วลิสงพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกในไทย ซึ่งที่มาคำว่า สข.38 ขอยอมรับว่าหาข้อมูลไม่ทันแต่อยากลงรูปเพราะเพิ่งถ่ายมาสดๆจากแปลงที่ผมปลูก...เหอะๆๆ แต่จะเอามาเพิ่มเติมให้เพราะท่านผู้รู้ติดเที่ยวสงกรานต์พอดี เท่าที่มีข้อมูลคือ นำมาปลูกและคัดเลือกเปรียบเทียบผลผลิตครั้งแรกที่ สถานีกสิกรรมร้อยเอ็ด ดูชื่อแล้วน่าจะเก่ามากครับก็เก่าพอสมควร คือตั้งแต่ปี 2502 และกรมกสิกรรม ได้แนะนำพันธุ์ ในปี 2505 เอาลักษณะทั่วไป(ดูด้วยตาผมนี่ล่ะ) ลักษณะทรงต้นเป็นทรงพุ่ม ติดฝักกระจุกที่โคนต้น ดอกจะสีเหลืองเข้ม จงอกฝักเห็นชัดเจนครับ เยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงสดใส(แก่เต็มที่) ต้องบอกว่าเยื่อหุ้มที่สีแดงทำให้ผมสนใจขึ้นมาทันที เพราะน่าจะแปรรูปแล้วสีสวย แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า พันธุ์ สข. 38 นี้ปัจจุบันหาพันธุ์ยากมาก ผมได้พันธุ์นี้มาจาก ดร.จวงจันทร์ ดวงพัตรา ซึ่งเป็นปรมาจารย์ด้านถั่วลิสงท่านหนึ่ง ท่านหามาให้ตั้ง 1 กิโลกรัม ซึ่งผมถือว่า ไอ้ 1 กิโลกรัมนี่ล่ะคือสมบัติชาติเพราะมันเหลืออยู่แค่นี้ ไปถามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูซิครับ มีพันธุ์นี้รึเปล่า อาจเพราะมีการปรับปรุงพันธุ์มามากมายหลากหลายสายพันธุ์ จนลืมไปว่า สข.38 คือสุดยอดถั่วลิสงต้ม ที่ใครได้ชิมแล้วต้องยกนิ้วให้ ดังนั้นที่ผมเอามาลงในวันนี้เพื่อบอกว่า "เรามัวแต่มองหาสิ่งที่ดีที่สุด จนลืมมองเห็นคุณค่าสิ่งที่เรามีอยู่" แต่อย่าเพิ่งตกใจว่าจะสูญพันธุ์เหมือนสัตว์ป่าคุ้มครองหลายๆตัว เพราะยังไงๆ ซะผมคงจะขยายพันธุ์ สข.38 ให้มีมากกว่านี้ จะเก็บไว้ในสต็อกถั่วลิสงในชีวิตผมต่อไป นี่ล่ะครับ "สข.38 สุดยอดถั่วลิสง"ของเรา
09 เมษายน 2553
บริษัทเปิดรับซื้อถั่วลิสงแล้ว
20:48 | Posted by
peanut |
แก้ไขบทความ
จั่วหัวตรงๆ เพราะตอนนี้บริษัท แม่รวยการเกษตร(โก๋แก่) จำกัด จังหวัดสกลนคร เปิดรับซื้อถั่วลิสง(เปิดตราชั่ง)แล้ว รับซื้อเฉพาะพันธุ์ไทนาน 9 นะครับ ย้ำนะครับพันธุ์ไทนาน 9 ซึ่งบริษัทได้ประกันราคาให้สมาชิก ที่ 18 บาท ต่อกิโลกรัม แต่เปิดรับซื้อถั่วเกรดเอสูงถึง 23-26 บาทเลยที่เดียว ซึ่งถือว่าราคาดีมากๆ เมื่อเทียบกับฤดูแล้งปีที่แล้ว อาจเป็นเพราะพื้นที่ปลูกที่ลดลงมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน ๆ มา เกษตรกรที่ปลูกหลังปลูกข้าวพันธุ์เบา เก็บเกี่ยวและขายไปแล้วก่อนสิ้นเดือนมีนา ฝากบอกมาว่า ได้ราคาสูงถึง 26 บาทเลยทีเดียว นั่นเพราะถั่วในช่วงดังกล่าวสามารถลดความชื้นได้ดีเพราะไม่มีฝนตก และไม่ถูกรบกวนจากโรคแมลงมากนัก ทำให้ผลผลิตสูงและคุณภาพดี สามารถขายผลผลิตได้ราคา สมาชิกโครงการหลายคนซึ่งผมเป็นหนึ่งในนั้น ให้ความเห็นตรงกันว่า การปลูกถั่วลิสงหลังปลูกข้าวพันธุ์เบา(ตุลาคม-กลางพฤศจิกายน) สามารถลดปัญหาโรคแมลง และลดความชื้นได้ดีคือเก็บเกี่ยวช่วงมีนาคม แถมยังขายได้ราคาดี ถึงแม้ไม่มีผลทดลองวิจัยยืนยันก็ตาม แต่สิ่งพวกนี้บางทีอาศัยประสบการณ์ที่สามารถทำนายได้แม่นยำ ไม่แพ้หมอลักษ์....ฟันธงเหมือนกัน เหนือสิ่งอื่นใดเกษตรกรควรมีการจดบันทึกข้อมูลการปลูกไว้เพื่อเป็นข้อมูลการผลิตในฤดูถัดไป ยังไงเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวแล้ว สามารถสอบถามรายละเอียด การรับซื้อถั่วลิสงที่ 042 747434-5 ชื่อบริษัทแม่รวยการเกษตร (โก๋แก่) จำกัด จังหวัดสกลนคร คร๊าบบบบบบบบบบบ
07 เมษายน 2553
เหนื่อยกว่าเดิม รึ หายเหนื่อย
11:24 | Posted by
peanut |
แก้ไขบทความ
วิกฤตน้ำปีนี้กระทบกับข้าวนาปรังมากพอสมควรในหลายพื้นที่ เขื่อนหลายๆเขื่อนต้องหยุดปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร เกษตรกรก็คงต้องรับภาระ นั่งร้องเพลง"ขาดทุน"กันแทบทุกปี ปีที่แล้วท่วม ปีนี้แล้ง คงเกิดคำถามว่า แล้วปีไหนจะพอดีซักที จะได้ลืมตาอ้าปากร้องเพลง คาราโอเกะ "กำไร" เหมือนๆอาชีพอื่นๆมั่ง คำตอบมีแล้วครับ การบริหารจัดการน้ำของไทยยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจน คือต้องแก้ทั้งระบบอ่ะครับ ดีนะครับที่ถั่วลิสงของผมเป็นพืชฤดูแล้งที่ใช้น้ำน้อย และยังสามารถปรับปรุงดินให้ผมได้ด้วย ผมว่าปีนี้คงยิ้มได้เหมือนทุกปี ช่วงนี้เกษตรกรที่ปลูกถั่วลิสงกำลังเริ่มเก็บเกี่ยว ผมคนนึงล่ะที่กำลังเก็บเกี่ยวถั่วปีนี้โดยสรุป ถือว่าค่อนข้างดีครับ แต่ปัญหายังเจอโรคแมลงเข้าทำลายเหมือนๆทุกปีที่ผ่านมา โรคโคนเน่ายังเป็นปัญหา(เพราะตอนนี้ไม่ใช้ยาคลุก) โรคยอดไหม้ ที่มีเพลี้ยไฟเป็นพาหะยังพบอยู่ หนอนกระทู้ในแปลงผมตัวบากเอบบ.....(ตัวใหญ่) เจอเกือบทุกปีกรณีฝนทิ้งช่วง แต่โดยรวมผลลิตถือว่าดี ซึ่งราคาถั่วสดที่ซื้อเกษตรกรปลิดสดๆ ราคา 12-15 บาทเลยที่เดียว แต่ราคาดีขนาดไหนผมยังคงขายถั่วฝักแห้งอยู่ดีครับ เพราะเมื่อเทียบแล้วการตากให้แห้งรอจำหน่าย มีผลดีคือเรารอราคาได้ และถั่วสดราคาดีจะอยู่ในช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยว หลังจากนั้นตลาดก็ตก ซึ่งบางทีบวก ลบ คูณ หารดูแล้ว สู้เราเสียเวลานิดหน่อยตากให้แห้ง รอจำหน่ายดีกว่า ผมเคยทดลองเปรียบเทียบน้ำหนักสดกับแห้งดูแล้ว ได้สรุปดังนี้ครับ ตากถั่ว 100 กิโลกรัม 4 แดด ความชื้นเหลือ 8 % ได้ถั่วฝักแห้ง เฉลี่ย ประมาณ 65 กิโลกรัม นั่นคือ 65 % ของนำหนักสด ซึ่งผมจะลองคำนวณคร่าวให้ดูนะครับ
ถั่วสด 100 ก.ก. ราคา 12 บาท ขายได้ 1200 บาท
ถั่วสดตากแห้งเหลือถั่วแห้ง 65 ก.ก. ราคา 23 บาท ขายได้ 1495 บาท
เห็นไหมครับ เมื่อเทียบดีๆคิดดีๆก่อนขายผลผลิตเราจะเห็นความต่าง ที่เกิดขึ้น นี่คิดแค่ 100 ก.ก. นะครับ เอาน่าเห็นตัวเลขแล้วเกษตรกรอย่างทำท่าปวดหัวครับเพราะหากเราไม่ศึกษาเรื่องพวกนี้อาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อของคำว่า "ขาดทุน" อยู่ร่ำไป ยังไง ๆ ซะเกษตรกรที่ปลูกถั่วลิสงปีนี้ ยังรอดูตลาดที่กำลังจะเปิดราคาหลังสงกรานต์ เพราะพื้นที่ปลูกลดน้อยลง ซึ่งพ่อค้าคงสู้ราคาดุเดือดไม่แพ้มวยคู่เอกช่อง 7 สี อย่างแน่นอนได้แต่รอ ว่าจะ "เหนื่อยกว่าเดิม รึ หายเหนื่อย" ตอนขายผลผลิต นี่ยังคงชะตากรรมเกษตรกรต่อไป
ถั่วสด 100 ก.ก. ราคา 12 บาท ขายได้ 1200 บาท
ถั่วสดตากแห้งเหลือถั่วแห้ง 65 ก.ก. ราคา 23 บาท ขายได้ 1495 บาท
เห็นไหมครับ เมื่อเทียบดีๆคิดดีๆก่อนขายผลผลิตเราจะเห็นความต่าง ที่เกิดขึ้น นี่คิดแค่ 100 ก.ก. นะครับ เอาน่าเห็นตัวเลขแล้วเกษตรกรอย่างทำท่าปวดหัวครับเพราะหากเราไม่ศึกษาเรื่องพวกนี้อาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อของคำว่า "ขาดทุน" อยู่ร่ำไป ยังไง ๆ ซะเกษตรกรที่ปลูกถั่วลิสงปีนี้ ยังรอดูตลาดที่กำลังจะเปิดราคาหลังสงกรานต์ เพราะพื้นที่ปลูกลดน้อยลง ซึ่งพ่อค้าคงสู้ราคาดุเดือดไม่แพ้มวยคู่เอกช่อง 7 สี อย่างแน่นอนได้แต่รอ ว่าจะ "เหนื่อยกว่าเดิม รึ หายเหนื่อย" ตอนขายผลผลิต นี่ยังคงชะตากรรมเกษตรกรต่อไป
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)