07 เมษายน 2553
เหนื่อยกว่าเดิม รึ หายเหนื่อย
11:24 | Posted by
peanut |
แก้ไขบทความ
วิกฤตน้ำปีนี้กระทบกับข้าวนาปรังมากพอสมควรในหลายพื้นที่ เขื่อนหลายๆเขื่อนต้องหยุดปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร เกษตรกรก็คงต้องรับภาระ นั่งร้องเพลง"ขาดทุน"กันแทบทุกปี ปีที่แล้วท่วม ปีนี้แล้ง คงเกิดคำถามว่า แล้วปีไหนจะพอดีซักที จะได้ลืมตาอ้าปากร้องเพลง คาราโอเกะ "กำไร" เหมือนๆอาชีพอื่นๆมั่ง คำตอบมีแล้วครับ การบริหารจัดการน้ำของไทยยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจน คือต้องแก้ทั้งระบบอ่ะครับ ดีนะครับที่ถั่วลิสงของผมเป็นพืชฤดูแล้งที่ใช้น้ำน้อย และยังสามารถปรับปรุงดินให้ผมได้ด้วย ผมว่าปีนี้คงยิ้มได้เหมือนทุกปี ช่วงนี้เกษตรกรที่ปลูกถั่วลิสงกำลังเริ่มเก็บเกี่ยว ผมคนนึงล่ะที่กำลังเก็บเกี่ยวถั่วปีนี้โดยสรุป ถือว่าค่อนข้างดีครับ แต่ปัญหายังเจอโรคแมลงเข้าทำลายเหมือนๆทุกปีที่ผ่านมา โรคโคนเน่ายังเป็นปัญหา(เพราะตอนนี้ไม่ใช้ยาคลุก) โรคยอดไหม้ ที่มีเพลี้ยไฟเป็นพาหะยังพบอยู่ หนอนกระทู้ในแปลงผมตัวบากเอบบ.....(ตัวใหญ่) เจอเกือบทุกปีกรณีฝนทิ้งช่วง แต่โดยรวมผลลิตถือว่าดี ซึ่งราคาถั่วสดที่ซื้อเกษตรกรปลิดสดๆ ราคา 12-15 บาทเลยที่เดียว แต่ราคาดีขนาดไหนผมยังคงขายถั่วฝักแห้งอยู่ดีครับ เพราะเมื่อเทียบแล้วการตากให้แห้งรอจำหน่าย มีผลดีคือเรารอราคาได้ และถั่วสดราคาดีจะอยู่ในช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยว หลังจากนั้นตลาดก็ตก ซึ่งบางทีบวก ลบ คูณ หารดูแล้ว สู้เราเสียเวลานิดหน่อยตากให้แห้ง รอจำหน่ายดีกว่า ผมเคยทดลองเปรียบเทียบน้ำหนักสดกับแห้งดูแล้ว ได้สรุปดังนี้ครับ ตากถั่ว 100 กิโลกรัม 4 แดด ความชื้นเหลือ 8 % ได้ถั่วฝักแห้ง เฉลี่ย ประมาณ 65 กิโลกรัม นั่นคือ 65 % ของนำหนักสด ซึ่งผมจะลองคำนวณคร่าวให้ดูนะครับ
ถั่วสด 100 ก.ก. ราคา 12 บาท ขายได้ 1200 บาท
ถั่วสดตากแห้งเหลือถั่วแห้ง 65 ก.ก. ราคา 23 บาท ขายได้ 1495 บาท
เห็นไหมครับ เมื่อเทียบดีๆคิดดีๆก่อนขายผลผลิตเราจะเห็นความต่าง ที่เกิดขึ้น นี่คิดแค่ 100 ก.ก. นะครับ เอาน่าเห็นตัวเลขแล้วเกษตรกรอย่างทำท่าปวดหัวครับเพราะหากเราไม่ศึกษาเรื่องพวกนี้อาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อของคำว่า "ขาดทุน" อยู่ร่ำไป ยังไง ๆ ซะเกษตรกรที่ปลูกถั่วลิสงปีนี้ ยังรอดูตลาดที่กำลังจะเปิดราคาหลังสงกรานต์ เพราะพื้นที่ปลูกลดน้อยลง ซึ่งพ่อค้าคงสู้ราคาดุเดือดไม่แพ้มวยคู่เอกช่อง 7 สี อย่างแน่นอนได้แต่รอ ว่าจะ "เหนื่อยกว่าเดิม รึ หายเหนื่อย" ตอนขายผลผลิต นี่ยังคงชะตากรรมเกษตรกรต่อไป
ถั่วสด 100 ก.ก. ราคา 12 บาท ขายได้ 1200 บาท
ถั่วสดตากแห้งเหลือถั่วแห้ง 65 ก.ก. ราคา 23 บาท ขายได้ 1495 บาท
เห็นไหมครับ เมื่อเทียบดีๆคิดดีๆก่อนขายผลผลิตเราจะเห็นความต่าง ที่เกิดขึ้น นี่คิดแค่ 100 ก.ก. นะครับ เอาน่าเห็นตัวเลขแล้วเกษตรกรอย่างทำท่าปวดหัวครับเพราะหากเราไม่ศึกษาเรื่องพวกนี้อาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อของคำว่า "ขาดทุน" อยู่ร่ำไป ยังไง ๆ ซะเกษตรกรที่ปลูกถั่วลิสงปีนี้ ยังรอดูตลาดที่กำลังจะเปิดราคาหลังสงกรานต์ เพราะพื้นที่ปลูกลดน้อยลง ซึ่งพ่อค้าคงสู้ราคาดุเดือดไม่แพ้มวยคู่เอกช่อง 7 สี อย่างแน่นอนได้แต่รอ ว่าจะ "เหนื่อยกว่าเดิม รึ หายเหนื่อย" ตอนขายผลผลิต นี่ยังคงชะตากรรมเกษตรกรต่อไป
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
ขอบคุณทุกเสียงครับเรียนรู้แลกเปลี่ยนแบ่งปัน