พีนัทบอสบล็อกกลับมาแล้วครับ

พีนัทบอสบล็อกกลับมาแล้วครับ

ถั่วลิสงเป็นพืชที่ควรหมุนเวียนในระบบปลูกพืชของไทย

ยินดีต้อนรับกลับบ้าน เรื่องราวในบล็อกจะถูกจัดเก็บเป็นหมวดหมู่ ร่วมสร้างชุมชนออนไลน์คุณภาพ
15 กันยายน 2554
           
                               ผมเป็นคนนึงที่ชอบเดินทางไปมาหลายจังหวัดในภาคอิสาน เนื่องจากโดยส่วนตัวชอบท่องเที่ยว โดยเฉพาะวัดวาอาราม แหล่งอาหารไปเสาะหามาจนน้ำหนักตัวขึ้นมาแบบชนิดที่ว่า อวบระยะสุดท้าย ทั้งเรื่องงานที่ตอนนี้มีภาระที่เพิ่มขึ้น จึงเห็นหลายๆแหล่งปลูกถั่วลิสงฤดูฝน ปีนี้แถบอิสานพื้นที่ปลูกลดลง มากทีเดียว บางหมู่บ้านที่ผมเคยเห็น พื้นที่กลายเป็นไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง และสวนยางพาราไปเกือบทั้งหมด บางหมู่บ้านทิ้งพื้นที่ว่างเปล่า สอบถามมาได้ความว่า พื้นที่ปลูกถั่วลิสงฤดูฝน ในแถบอิสานส่วนมากเช่าปลูก ไม่ใช่ที่ดินตัวเอง ปีนี้เจ้า่ของที่ดินไม่ให้ปลูกเพราะเตรียมลงยางพารา ปาล์มที่คิดว่าปลูกไม่ได้ จึงไม่ยอมให้เช่า ทั้งเกษตรกรเองไม่มีเมล็ดพันธุ์ ทั้งฝนที่กระหน่ำตั้งแต่ต้นพฤษภาคม จนถึงวันนี้ยังอ่วมทุกภาคในประเทศไทย เป็นสาเหตุหลักๆ ที่พื้นที่ปลูกหายไป ส่วนพื้นที่ที่ยังคงเหลือ ต้นถั่วปีนี้เรียกว่า งามจับใจ สูงชะลูด เขียวขจี เพราะ น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ กำไรและรายได้ดีแน่นอน (ความหวังของเกษตรกร) แต่ไม่นานสิ่งที่ตามมาคือ เมื่ออายุถั่วใกล้เก็บเกี่ยวหรือประมาณ 3 เดือน  ต้นถั่วที่เคยเขียวขจีกลับเริ่มเน่าเปื่อย เพราะน้ำท่าที่ดูเหมือนว่าจะดีเกินไป โรคใบจุด ราสนิม จัดมาเต็มชุด เกษตรกรตัดสินใจถอนทันทีทั้งที่อายุยังไม่ครบ.....อะไรตามมา..??????
             ถั่วที่ยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้วเก็บก็จะได้เมล็ดที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มฝัก เปอร์เซ็นต์กระเทาะต่ำ.... ถั่วโป๊ะ..(อิสาน)นั่นเอง....เก็บเกี่ยวมาแล้วตากที่ไหน...ฝนตกทั้งวันทั้งคืน เกษตรกรต้องเอาไว้บนบ้าน พึ่งรอให้มีแดด แต่ถั่ว 4 ไร่ ถ้ายืดพื้นที่ก็ประมาณ 80 เมตรคูณ 80 เมตร ตากบนบ้า่นแค่ไม่ถึง 80 ตารางเมตร กองหนามาก ๆ ถั่วเริ่มจะเน่าเสียมีรา เสี่ยงตัวการปนเปื้อนอะฟลาท็อกซิน สารพิษที่สร้างขึ้นด้วยเชื้อราแอสเพอจิวรัสฟลาวัส (นี่พยายามเขียนเต็มที่แล้วนะครับ) ช่างเถอะครับ ให้รู้แต่เพียงว่าเป็นสารพิษที่เป็นอันตรายต่อตับ เป็นสารก่อมะเร็งอีกตัวหนึ่ง ที่น่ากลัว หากขืนเอาถั่วลิสงพวกนี้ไปบริโภคล่ะก็จะเป็นอัึนตราย.....น่าเป็นห่วง....ปัญหาที่ตามมาคือ เมื่อพื้นที่ปลูกลดลง คนอยากซื้อเพิ่มขึ้น ปัญหาพื้น ๆ ทางเศรษฐศาสตร์ ที่ผมไม่เห็นใครแก้ได้สักทีในสินค้าเกษตรไทย เกิดจากแย่งซื้อโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ คือซื้อถั่วที่มีความชื้นสูงมาก ถั่วต้มผมไม่นับนะครับ  ถั่วแห้งหรือถั่วที่มีคุณภาพความชื้นต้องไม่เกิน 9 % คือเปลือกหุ้มเมล็ดแทบร่อนออกได้ครับ แต่พ่อค้าเห็นเป็นเช่นนั้นไม่ ...... ซื้อหมด เพราะถ้าไม่ซื้อ คนอื่นก็ซื้อ จึงทำให้ถั่วลิสงในฤดูฝนขาดคุณภาพทุกอย่าง ทั้งเปอร์เซ็นต์กระเทาะ ทั้งความชื้น  ไม่ได้สักอย่าง
                    ฟ้าฝนทุกวันนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้เมื่อไหร่ไทยจะมีหน่วยงานพยากรณ์อากาศเกษตรอย่างเป็นทางการเหมือนๆหลายประเทศที่เขาเด่นทางการเกษตร ไม่ใช่ มีแต่เมฆเป็นส่วนมาก ฝนฟ้าคะนองกระจาย ฝนตกเป็นหย่อมๆ พะนะโอ๊ย....เบี่ย..เมืองไทยเด้.....บ่นไปทุกวันตามประสาคนรากหญ้าที่นับวันจะเป็นพืชผลส่วนใหญ่ในเมืองไทยที่รอวันได้ แสงแดด อาหาร จากยอด ใบ ผ่านลำต้น สู่หัวใจของพืชทุกชนิดอย่าง ราก....บ้างคร๊าบบบบบกระพ้ม!!!!!!!!!

06 กันยายน 2554


          สืบเนื่องมาจากผมได้รับอีเมล์จากผองเพื่อนเกษตรกรที่เข้ามาชมบล็อกผม เรื่อง แจ๊บ แล้ว สนใจสอบถามมามากมาย...ผมจึงขออธิบายและลงรายละเอียดเรื่องนี้เพิ่มเติมนิสสส...นึงครับ เดิมทีผมไปเห็นแจ๊บแถวๆโคราชครับ  แล้วเ็ห็นตัวเป็น ๆ จากอาจารย์จ๋า ผู้ซื้อมาฝากให้ผม ตัวนึง ซึ่งผมใช้ปลูกข้าวโพด ซึ่งวัดระยะที่ 25 ซม. ซื้อมาตอนนั้นราคาประมาณ 650 บาท ซึ่งผมทดลองปลูกแล้วได้ผลดี สะดวกรวดเร็วขึ้น ผมจึงเอามาลองปลูกถั่วลิสงดู ซึ่งจริงๆแล้วใช้ปลูกอะไรก็ได้นะครับ ที่เป็นเมล็ดปลูก หรือ หยอดเป็นหลุม จากที่ได้ถือว่าผ่าน.......
          ผมยังมีโชคดีผมมีโอกาสร่วมงานกับคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน ภาควิชาพืชไร่นา  ซึ่งเป็นงานวิจัยที่ผมไม่ค่อยถนัด จึงขอแค่เก็บข้อมูลโดยอย่าคุยเรื่องสถิติและขอความคิดเห็นจากผมเพราะผมไม่ทราบได้!!!!!!!!!!555...อาจารย์บอกอาจารย์ใช้มานานแล้ว...ไอ้แจ๊บเนี่ยวัดระยะที่ 20 ซม.ด้วย ราคาถูก ใช้ได้ดี อาจารย์ให้ผมมาหนึ่งโหลครับ แถวบ้านเรียก ได้มาหลายอีหลีแหมะ !!!!...โห...คราวนี้แหละ.....เอ๊ยยยปลูกกันสนั่น  ผมลองปลูกถั่วเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา  10  ไร่ คน 13 คน ปลูก 3 โมงเช้าเสร็จ 3 โมงเย็น กินเลี้ยงต่อถึง 3  ทุ่ม...อ่ะนะมีบ้างครับ5555.....ทุ่นระยะเวลามากครับ จากปกติ ปลูกโดยใช้คนแทงหลุม นั่นคือ 2 คน น่าจะอยู่ 1 ไร่ หรือเต็มที่ 1.5 ไร่ แต่ถ้าใช้แจ๊บ 2 คน ได้ถึง 3 ไร่ครับ ยิ่งถ้าใช้เก่งๆ  คนนึงปลูกแบบชิวๆ 1.5 ไร่ สบายๆครับ เป็นประโยชน์ครับ
             ตอนนี้มีเมล์มาอยากเป็นเจ้าของแจ๊บเยอะมากๆครับ  ผมจะลองทำดูก่อนนะครับได้ผลยังไงอาจจะมาแบ่งปันเพื่อนๆนะครับ ติดตามวิธีการใช้ในบล็อกผมนะครับ ขอเวลาไปยืมกล้องวีดีโอเพื่อนมาถ่ายให้เพื่อนๆ ดูแล้วกัน...คร๊าบพ้มมมม   (เครดิตภาพถ่ายจาก: น้องป้อน)
02 กันยายน 2554


วันนี้มีโอกาสมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์อีกครั้งเพื่ออัพบล็อก แต่ผมต้องสะดุดกับ วารสารเศรษฐกิจการเกษตร ปีที่ 57 ฉบับที่ 652 ที่รายงานสภาวะ สถิติต่างๆ ที่เกี่ยวกับพืชต่างๆ พลิกไปพลิกมาเห็นข้อมูลถั่วลิสงที่ผมนั่งอ่านจนจบสรุปได้ว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดคะเนว่า ถั่วลิสงปี 2553 เมื่อเดือนธันวาคม 2553 มีพื้นที่เพาะปลูก 183,845 ไร่ มีผลผลิต 45,509 ตัน ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 248 กิโลกรัม/ไร่ ส่วนความเคลื่อนไหวในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 พบว่าราคาถั่วลิสงสด เฉลี่ย 19.16 บาท/กิโลกรัม ถั่วลิสงแห้ง ราคา เฉลี่ย  20.42 บาท/กิโลกรัม ราคาขายส่งตลาดกรุงเทพฯ ถั่วเมล็ดชั้นดี ราคา 52.50 บาท/กิโลกรัม ชนิดรอง 47.34 บาท/กิโลกรัม กระทรวงเกษตรสหรัฐ รายงานภาวะการผลิตถั่วลิสงโลก  2553/54 ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2554 มีผลผลิต 37.71 ล้านตัน นั่นคือ 37,710 ล้านกิโลกรัม ป๊าด.....เยอะจัด รู้มั๊ยครับ ประเทศไหนปลูกมากที่สุด......ยักษ์ใหญ่...อย่างจีนไงครับพี่น้อง จะบอกว่า ผลผลิตถั่วลิสงจีน เป็น 1 ใน 3 ของผลผลิตทั้งโลกอ่ะใหญ่จริงอะไรจริงนะเนี่ยจีนอ่ะ...!!!!!!!!!  อ่านไปสักพัก ต๊กใจ ไหงมีรูปจากบล็อกผมมาโผล่ในวารสารเศรษฐกิจการเกษตร รูปนี้ผมถ่ายด้วยกล้องมือถือ  ลงเป็นเรื่องต้นๆของบล็อกผมครับ   รู้สึกว่าถูกขโมยซีน.....แหมๆๆๆ น่าจะให้เครดิตเค้ามั่ง ลงชื่อเวบไว้ใต้รูปก็ดีนะครับ...แต่ก็แอบดีใจที่ยังมีคนเข้า่มาดูเวบผมทั้งภาครัฐภาคเอกชน งั้นผมจะตั้งใจมาอัพบล็อกบ่อยๆๆแล้วกันนะครับ........วันนี้ไปล่ะครับ